รวมพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ทำให้รถกินน้ำมันโดยใช่เหตุ

ในช่วงนี้ ใคร ๆ ก็อยากประหยัดน้ำมัน ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการลดพฤติกรรมที่ทำให้รถกินน้ำมันโดยใช่เหตุ จะช่วยทำให้น้ำมันที่คุณเติมใช้งานได้นานขึ้น

รวมพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ทำให้รถกินน้ำมันโดยใช่เหตุ

ในช่วงที่น้ำมันแพงแบบนี้ ใคร ๆ ก็อยากประหยัดน้ำมัน โดยเริ่มจากการที่ผู้ขับขี่ต้องมาสำรวจพฤติกรรมของตัวเองกัน ว่ามีพฤติกรรมอะไรที่ทำให้รถกินน้ำมันโดยใช่เหตุบ้าง เพื่อที่จะได้แก้ไขพฤติกรรมดังกล่าว และทำให้น้ำมันที่คุณเติมใช้งานได้นานขึ้น

เร่งความเร็วรถถี่ ๆ

ใครที่มีพฤติกรรมชอบเร่งความเร็วรถ โดยเฉพาะการเร่งแล้วเบรก ออกตัวไวไว้ก่อนแล้วค่อยเบรกทีหลัง เป็นพฤติกรรมที่ผลาญน้ำมัน การเร่งความเร็วรถถี่ เปลี่ยนความเร็วรถไปมา ทำให้รถเผาผลาญเชื้อเพลิงมาทำเป็นน้ำมันมาก ทำให้รถกินน้ำมันได้ ทางที่ดีควรขับรถด้วยความเร็วคงที่ปกติ ซึ่งความเร็วรถยนต์ที่เผาผลาญเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด อยู่ที่ความเร็ว 80-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ควรรักษาความเร็วให้คงที่ในระดับปริมาณเท่านี้ เพื่อที่รถของคุณจะได้ไม่กินน้ำมัน น้ำมันจะอยู่กับคุณได้นานมากขึ้น

ชอบเบรกกะทันหัน

การเบรกกะทันหันเป็นประจำ จะไปทำให้รถเปลี่ยนเกียร์เร็ว ซึ่งมีผลทดสอบออกมารองรับแล้วว่า การเบรกกะทันหันจะไปเพิ่มอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงถึง 40% ดังนั้นใครมีนิสัยที่ชอบเหยียบเบรกแบบกะทันหันเป็นประจำ ก็ต้องลด-ละ-เลิกซะแล้ว การเลิกเบรกกะทันหัน นอกจากจะช่วยไม่ให้รถกินน้ำมันแล้ว ยังช่วยในเรื่องเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อีกด้วย เพราะการที่คุณเบรกกะทันหัน อาจทำให้รถคันหลังเบรกตามคุณไม่ทัน หากขับรถตามมาในระยะประชิด อาจทำให้ชนท้ายรถของคุณเข้าได้ และการเบรกกะทันหันจะทำให้ผ้าเบรกของคุณเสื่อมได้ด้วย ต้องเสียเวลาเปลี่ยนใหม่และเสียทั้งเงินอีกด้วย 

เอารถไปขนของหนักจำนวนมาก

การใช้รถบรรทุกของหนักส่งผลต่อการกินน้ำมันรถได้ ไม่แม้แต่สิ่งของแต่หากบรรทุกคนแน่นเต็มรถ ก็ทำให้รถกินน้ำมันได้เช่นกัน หากรถของคุณมีน้ำหนักมากเกินไป รถจะต้องใช้แรงในการขับเคลื่อนมากขึ้น จะสังเกตได้จากการที่คุณ ต้องออกแรงเหยียบคันเร่งมากกว่าปกติ รถจึงจะขับเคลื่อนไปได้ ทั้งนี้การใช้รถบรรทุกสิ่งของก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่ต้องเลือกใช้รถให้ถูกประเภท หากรถของคุณเป็นรถคันเล็กอย่าง Eco Car อย่าใช้ขนของหนักจนเกินตัวรถเป็นประจำ เพราะจะกินน้ำมัน แต่หากรถของคุณเป็นรถสำหรับใช้บรรทุกของโดยเฉพาะ อย่างรถกระบะที่มีการออกแบบมาเพื่อใช้ขนสิ่งของโดยเฉพาะ ก็จะสามารถรองรับน้ำหนักในการขนของได้มากกว่ารถประเภทอื่น ๆ 

ไม่ตรวจสอบยางรถยนต์

หากปล่อยให้ยางรถยนต์เกิดการแบน ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ได้ตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ จะทำให้ล้อรถเกิดแรงเสียดสีมากกว่าปกติ ซึ่งแรงเสียดสีที่เกิดขึ้นนี่แหละ ที่จะไปทำให้รถกินน้ำมัน เพราะจะต้องใช้พลังงานในการขับเคลื่อนรถสูงกว่าปกติ ดังนั้นก่อนการขับขี่รถยนต์ ทุกครั้งจะต้องทำการตรวจเช็กลมยางให้ดี ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเสมอ เพื่อให้คงสมรรถนะในการขับขี่ไว้

ไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

ไม่ควรละเลยการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เมื่อถึงเวลาครบรอบกำหนดการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ให้ทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทันที ไม่อย่างนั้นจะทำให้รถกินน้ำมันได้ เพราะหากปล่อยให้น้ำมันเครื่องเก่า จะทำให้มีการสะสมของสิ่งสกปรกสะสมในน้ำมันเครื่อง และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ให้เปลี่ยนพร้อมไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้ง เพราะไส้กรองน้ำมันเครื่อง ทำหน้าที่ดักจับสิ่งที่จะเข้ามาเจือปนในน้ำมันเครื่องได้ หากเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แต่ไม่ได้เปลี่ยนไส้กรอง ไส้กรองอาจเกิดการอุดตันได้ ทำให้เปลืองน้ำมัน

การเลือกพฤติกรรมเหล่านี้ที่ได้กล่าวมาในข้างต้น จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น หากได้นำวิธีดังกล่าวไปปฏิบัติตามแล้ว ดีอย่าลืมแชร์ต่อให้คนรอบข้างด้วย เพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้ดี ๆ ให้แก่คนที่เรารัก และขอแนะนำเพื่อนแท้สำหรับผู้ขับขี่ “ประกันรถยนต์ชั้น 1” ที่ให้ความคุ้มครองเหนือกว่าประกันชั้นอื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติอื่น ๆ อุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม ประกันคุ้มครองครอบคลุมให้หมด ซึ่งเหมาะมากกับรถยนต์คันใหม่ป้ายแดงที่เนื้อหอม เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย และสิทธิพิเศษที่คุณจะได้รับสำหรับลูกค้าประกันชั้น 1 เฉพาะที่ Rabbit Care คุณจะได้รับบริการ Send Driver Home ที่จะมอบค่ารถให้คุณกลับบ้านอย่างปลอดภัย (ซึ่งบริการนี้มีเฉพาะประกันชั้น 1 ของแรบบิทแคร์เท่านั้น!) สนใจเข้ามาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสมัครได้แล้ว ที่นี่ https://rabbitcare.com/car-insurance/type1